การทำนาอินทรีย์ทำไม่ยาก อีกทั้งยังช่วยลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุน ลดการใช้สารฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช ทำให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพียงมีการจัดการที่ดีทั้งวิธีปลูกและขั้นตอนดูแลบำรุง ป้องกันกำจัดวัชพืช โรคและแมลง ด้วยวัถตุดิบจากธรรมชาติมาใช้ทดแทนการใช้สารเคมี
"นาโยนกล้า" นวัตกรรมการทำนาแบบใหม่ที่เหมาะสมกับพื้นที่ทำนาภาคกลาง หรือพื้นที่ที่จัดการเรื่องน้ำได้ การทำนาแบบโยนกล้าจะใช้เมล็ดพันธุ์ประหยัดกว่าการทำนาหว่านน้ำตม และนาดำ ทำให้ลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ได้มาก อีกทั้งยังง่ายไม่เปลืองแรง ผลผลิตที่ได้ไม่ต่างจากการทำนาหว่านหรือนาดำ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมวัชพืชได้ดีกว่า และหากทำนาด้วยเกษตรอินทรีย์ หรือ เกษตรปลอดสารพิษแล้ว ต้นทุนในการทำนายิ่งลดลงอย่างชัดเจน
การปลูกข้าวในระบบ SRI จะใช้ต้นกล้าข้าวที่มาอายุประมาณ 8-15 วัน ปลูกแบบต้นเดี่ยว โดยปลูกระยะห่าง 30x30 ซม. การปลูกพืชในระบบนี้จะเน้นเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นปัจจัยการผลิตและใช้น้ำน้อยเพียงให้ดินชื้นเท่านั้น เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำ โดยการปลูกแบบต้นเดี่ยวจะทำให้ข้าวแตกกอมากกว่าวิธีปกติ เพราะต้นข้าวจะไม่แย่งอาหารแข่งกันเอง ผลผลิตที่ได้จึงมากกว่าการปลูกด้วยวิธีปกติ นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้น้ำ ลดต้นทุนการผลิต และทำให้ต้นข้าวแข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงมากขึ้นอีกด้วย
เป็ดไล่ทุ่งเป็นการเลี้ยงเป็ดแบบปล่อยให้หากินเองในนา เป็ดจะช่วยกินหอยเชอร์รี่ และข้าววัชพืช ศัตรูสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ข้าวเจริญเติบโตไม่งอกงาม ผลตอบแทนได้เป็นไข่เป็ดนำมาขาย ที่สำคัญนาข้าวที่ปล่อยเป็ดลงไปหากินต้องปลอดภัย ไร้สารเคมี เอาไว้การันตีคุณภาพของไข่เป็ด